วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

Expecto Patronum [Fred/George : Harry Potter] (PG-13)

เสียงอึกทึกครึกโครมดังก้องหูอยู่ตลอดเวลา ฝุ่นสีเทาที่คละคลุ้งไปตามอากาศผสมกับกลิ่นคาวเลือดพาลให้หายใจไม่ออก เคล้าไปด้วยเสียงเซ็งแซ่ที่ตะโกนร่ายคาถาออกมา พร้อมกับมือที่ยกไม้กายสิทธิ์ชี้ออกไปข้างหน้าด้วยหลากหลายความรู้สึกทั้งกลัว โกรธ แค้น เสียใจ และความรู้สึกที่ต้องปกป้อง
จอมมารได้หวนคืนมาแล้ว… สงครามกำลังดำเนินอยู่ และทุกคนตั้งใจจะทำเต็มที่…แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ต้องปกป้องฮอกวอตส์ให้ได้
เฟร็ด!!!” เสียงทุ้มตะโกนหาอีกฝ่ายที่ทั้งหน้าตา สีผม หรือแม้กระทั่งการแต่งตัวก็เหมือนเขาไม่มีผิดเพี้ยนใช่แล้ว แฝดคนพี่ของเขานั่นเอง
มือตวัดไม้กายสิทธิ์ใส่พวกลูกน้องของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร พลางปากก็เรียกชื่อหาอีกคนอยู่อย่างไม่ขาดสาย
อยู่ๆฝ่ายศัตรูที่ยังหลงเหลืออยู่ก็หยุดการโจมตีและถอยทัพกลับไปอย่างรวดเร็ว สร้างความงุนงงให้นักเรียนและศาสตราจารย์เป็นอย่างมาก แฮร์รี่ทำสำเร็จแล้ว... ทุกคนตั้งสติและรีบรุดเข้าไปช่วยผู้คนที่กำลังบาดเจ็บ
เฟร็ด!...เฟรเห็นเฟร็ดมั้ย?จอร์จวิ่งวุ่นตามหาอีกคน จนไปเจอเหล่านักเรียนที่กำลังบาดเจ็บ เขาเอ่ยปากถามนักเรียนบางส่วนที่นั่งพักอยู่ที่โถงทางเดินยาว นักเรียนบางคนก็ได้แต่ส่ายหน้าตอบให้เขา บางคนก็มองที่เขาด้วยสายตาที่สงสาร และส่วนน้อยก็ชี้ไปอีกทางปลายสุดของทางเดิน
ครอบครัววีสลีย์ดูท่าจะอยู่ตรงนั้นกันทั้งหมด ตัวใหญ่ๆของมอลลี่เป็นที่สังเกตได้ง่ายพอดู แต่เขากลับไม่เห็นเฟร็ดกับน้องชายตัวแสบ รอน เลยนี่สิ… ผมแดงๆเหล่านั้นดึงดูดให้จอร์จ วีสลีย์ รีบวิ่งเข้าไปจนแทบจะทิ้งไม้กายสิทธิ์ไว้ที่พื้นเลยทีเดียว
ทุกคน เป็นยังไงกันบ้าง เฟร็ดล่ะ..เฟร็ดอย…”
คำพูดทุกคำถูกกลืนลงไปหมด เมื่อร่างที่กำลังนอนอยู่บนผ้าสีขาวนั่นช่างคุ้นเคยเส้นผมสีแดงตลอดทั้งหัว จมูก ปาก และเปลือกตาที่มองเห็นมาตลอดทั้งชีวิต พวงแก้มที่เคยสดใส กลับซีดเผือด ไม่ต่างจากแขนหรือขาที่ไม่มีทีท่าขยับตอบสนองอะไรอีกต่อไปแล้ว
น้ำตารื้นขึ้น ก่อนที่จะสะสมจนเต็มหน่วยและหยดเผาะออกมา ไหลออกมาเรื่อยๆพรั่งพรูออกมาเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด เสียงรอบข้างมันช่างเงียบงัน แม้กระทั่งเสียงกรีดร้องของตัวเขาเองยังจะไม่ได้ยินมันเลย
เข่าของจอร์จทรุดลงไปทันที มือของเขาสั่น ต่างจากมือของอีกคนที่เขากำลังกอบกุมเอาไว้ มันเย็นเฉียบ และไร้การเคลื่อนไหวใดๆ… เขารู้สึกถึงแรงโอบกอดจากด้านหลัง ครอบครัววีสลีย์คือครอบครัวที่อบอุ่นที่สุด ไม่มีทางที่วีสลีย์จะทิ้งกันให้อยู่เดียวดาย

เฟเฟร็ดทำไมนาย..สัญญา…” คำพูดที่ไม่ปะติดปะต่อค่อยๆพรั่งพรูออกมาจากปาก
ฉันฉันรอดมาได้ฉันเสียแค่หูไปข้างเดียวเองนะ!!!!” จอร์จเริ่มตะโกนโวยวายออกมา เขาทรุดตัวลง หน้าซบลงกับอกของแฝดของตนเอง
กลับมาได้โปรด กลับมา…” เสียงพึมพำไม่สามารถส่งไปยังโสตประสาทของอีกฝ่ายได้เลย… เขารู้ แต่ในตอนนี้เขาไม่ต้องการอะไร รอนเพิ่งกลับมาพร้อมกับพวกแฮร์รี่ เขาได้แค่สวมกอดทุกคนด้วยความเศร้า โศกเศร้าที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ครึ่งหนึ่งของชีวิตเขาได้จากไปแล้ว


.
.
.
“!!!” จอร์จดีดตัวขึ้นมาจากเตียงของตัวเอง เขามองไปรอบๆที่มีแต่ความมืดมิด
 ก่อนจะหยิบไม้กายสิทธิ์คู่ใจออกมา
 ลูมอสแสงสว่างสีขาวแคบๆวาบขึ้นมาที่ปลายไม้…. นาฬิกาข้างๆหัวเตียงบอกเวลาตี 3 กับ 40 นาที วันที่ 1 เมษายน ค..1999
น็อกซ์เขาดับไฟลง…. วันนี้เป็นวันเกิดของเขา ถ้าพูดให้ถูก มันคือวันเกิดของเขาและเฟร็ด ดวงตาของจอร์จที่เริ่มปรับกับความมืดได้แล้ว มองไปทางเตียงข้างๆเตียงที่ผ้าห่มและหมอนถูกจัดเรียงไว้อย่างสวยงาม ไม่ต่างจากวันแรกที่มอลลี่ขึ้นมาจัดห้องให้พวกเขาในตอนที่พวกเขายังเป็นเด็กและทุกครั้ง ไม่เกินหนึ่งนาทีทุกอย่างก็เละตุ้มเป๊ะไปหมด

จอร์จ นายคิดว่ามอลลี่จะมาเก็บห้องให้เราทำไม?เฟร็ดถาม
นั่นคงเป็นเรื่องสนุกสุดๆแล้วสำหรับคนแก่ก็ได้จอร์จตอบ พลางหัวเราะคิกคัก
โอ้วแหวะ ถ้าพวกเราแก่ ฉันจะไม่ทำอย่างนี้หรอก นายก็ด้วย นายต้องมาเปิดร้านขายของเล่นกับฉันนะ! ตรอกไดแอกอนยังมีที่ว่างตั้งเยอะแยะ
แน่นอน! เราจะเป็นเจ้าของร้านของเล่นที่ใหญ่และน่าสนใจที่สุดในตรอกไดแอกอน!”

จอร์จเผลอยิ้มออกมาคนเดียว… ในที่สุดความฝันของเขาและพี่ชายก็เป็นจริง ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์เป็นกิจการที่สุดยอดที่สุด มีทุกอย่างที่พวกเขาทั้งคิดค้นขึ้นมาเอง และสูตรที่หาได้จากห้องเรียนปรุงยาขายอยู่ที่นี่!... แต่ไม่นานนัก เหตุการณ์เลวร้ายนั่นก็ทำให้ร้านรวงในตรอกปิดเงียบไปหมดและเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตเขาก็เกิดขึ้นมา

จากรอยยิ้มเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เรียบเฉย เขาเคยร้องไห้ทุกวัน ทั้งวันทั้งคืนมาหลายเดือนแล้ว มันทำให้เขาเสียสุขภาพ ร่างกายผอมซีด ดูซูบเซียวยิ่งกว่าคนตายซะอีก... เขารู้ว่าร้องไห้ไปมันก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้… เวลานับตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมาเกือบจะปีนึงแล้ว เขาเลิกที่จะจมปลักอยู่ในอดีต และทำกิจการร้านขายของเล่นนี้ต่อไปพร้อมๆกับน้องชายเขาที่ว่างงานมาช่วยบ้าง รอน วีสลีย์

แต่เวลาที่ผ่านไปเหล่านั้นนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาลืม เฟร็ด วีสลีย์ ไปได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว

ยิ่งโดยเฉพาะคืนนี้เขาไม่ได้ฝันมาหลายเดือนแล้ว และฝันแรกในรอบหลายเดือนของเขากลับเป็นฝันที่ย้อนทุกความทรงจำในวันนั้น
จอร์จพยายามข่มตาหลับ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ร่างสูงนอนพลิกไปมาบนเตียงจนเวลาล่วงเลยไปถึง 7 โมงเช้า
ใกล้เวลาที่เขาจะต้องไปทำงานอีกแล้วสินะ ปกติแล้ว ทั้งวันทั้งคืนเขาก็จะอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ของร้านของพวกเขา แต่เพราะวันนี้เป็นวันเกิด มอลลี่และทุกๆคนจึงต้องการให้เขามานอนที่บ้านบ้างบ้านเกิดอันแสนอบอุ่นของวีสลีย์
เขาลุกขึ้นจากเตียงนอนของตนเอง ก่อนที่จะเดินอ้อมเตียงอีกเตียงหนึ่งไปยังตู้เสื้อผ้าไม้ และเปิดประตูทั้งสองบานของมันออก ฝั่งขวามีเสื้อคลุมควิชดิทช์ที่มีตัวอักษรสีทองเป็นรูปตัว G แขวนอยู่ที่ข้างกระจก พาลให้เขาอดนึกถึงวันเก่าๆไม่ได้วันที่เขากับเฟร็ดได้ตำแหน่งบีตเตอร์ของทีมกริฟฟินดอร์ ช่วงเวลาที่ได้ลงสนามและแท็คทีมหลอกผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม(โดยเฉพาะพวกสลิธีรินยอดยี้งี่เง่านั่น)มันสนุกจนแทบไม่อยากเอาเท้าลงมาแตะพื้นเลยทีเดียว
ตู้เสื้อผ้าด้านซ้ายอัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าเก่าๆของเฟร็ด เขามองที่มัน ก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดของตนเองออกไป แล้วหยิบเสื้อสูทสีม่วง กางเกงที่เข้ากัน เชิ้ตสีฟ้าอ่อน และเนคไทสีม่วงที่ดูสว่างขึ้นมาหน่อยออกมาถ้าแต่งตัวได้ไม่น่าสนใจ ลูกค้าเด็กๆก็คงเบื่อแย่ สีสันฉูดฉาดพวกนี้แหละที่จะดึงดูดความสนุกสนานออกมาได้

จอร์จ!!! ลงมาได้แล้ว!” เสียงแหลมปรี๊ดของคุณนายมอลลี่ผู้เจ้ากี้เจ้าการ ทำให้เขารีบวางเสื้อผ้าแล้วจ้ำอ้าวลงไปแทบจะไม่ทัน ที่โต๊ะอาหาร ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันและมีกล่องของขวัญประปราย

“สุขสันต์วันเกิด จอร์จ!!!” ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน พลุเล็กๆที่ขายในร้านของเขาก็ถูกใช้ในงานวันนี้ด้วย

“…” จอร์จได้เพียงแค่ยิ้มออกมาบางๆ กล่องของขวัญสีสันสวยงามเหล่านี้มันดูน้อยกว่าทุกปี น้อยลงไปเท่าตัวเลยเขาหยิบขึ้นมากล่องหนึ่งก่อนจะสำรวจให้ทั่วกล่องด้วยใบหน้าฉงน ก่อนจะเอ่ยปากถามออกไปว่า

กล่องนี้ไม่มีชื่อบอกว่าของใครนี่? แล้วจะรู้ได้ไงว่าของผมหรือเฟ…”

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ
เขาก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจะหลุดปากพูดประโยคเมื่อครู่ออกมา
ก็วันเกิดปีที่แล้วเขายังอยู่กับเฟร็ดอยู่เลย

..จอร์จลิลลี่เรียกชื่อพลางลูบแขนของเขาเบาๆ
            จอร์จทำได้เพียงแค่ยิ้มออกมา และพูดว่าไม่เป็นไร เขาค่อยๆแกะห่อของขวัญในมือ เขารับรู้ได้ว่ามือของเขามันสั่นมาก แต่ก็ต้องควบคุมไม่ให้ใครมาเป็นห่วงไม่ให้ใครเห็น เขาทำได้มาตลอด ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เขาสามารถยิ้มได้ หัวเราะได้ เขาก็ต้องทำให้ได้สิ

            ฝุ่บปั่ก!’

ท่ามกลางสายตาทุกคน กล่องของขวัญที่ยังแกะไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ ร่วงลงบนพื้น จอร์จมองมันก่อนจะทำหน้าไม่ถูก เขาค่อยๆลดขาเดินถอยหลัง
            ขอโทษนะครับ เดี๋ยวผม..ขอตัวก่อนเขารีบวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันนะ?
.
.
.

ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงที่ยังไม่ได้เก็บเลยด้วยซ้ำ วันนี้จะเป็นวันที่เขาขายของได้ดีมากแน่ๆ วันเมษาหน้าโง่ วันที่ทุกคนตั้งใจเฟ้นหามุขไปแกล้งกัน และสินค้าแบบนั้นก็มีอยู่มากมาย แต่ในตอนนี้ ลำพังลูกบิดประตูยังควบคุมได้ยาก เขาไม่อยากออกไปไหนเลย ไม่อยากแม้กระทั่งลุกจากตรงนี้ เขาไม่ได้ต้องการใครสักคนให้มานั่งกับเขาตรงนี้ ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่

            ‘ก๊อกๆ

            เสียงเคาะประตูสั้นๆดังขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมาจากภวังค์ ดวงตาของเขายังเหือดแห้งสนิท
            “จอร์จ นี่ฉันเองนะ รอนเสียงดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของประตู

            “วันนี้นายจะไปที่ร้านมั้ย?

            “….” ไม่อยากไป

            “...."

           'ทำอะไรของนายอยู่น่ะ จอร์จ วิสลีย์?... ถ้าฉันเป็นเฟร็ดฉันต้องผิดหวังในตัวนายแน่นอน'

           "จอร์จ..." น้ำเสียงที่ไร้ความขี้เล่นเหมือนอย่างเคยของรอนเปล่งออกมาเบาๆ

          “รอแปป เดี๋ยวฉันออกไปเขาตอบกลับไป ก่อนที่จะได้ยินเสียงเดินลงบันไดลับหายไปช้าๆ
.
.
.

            นี่คือชีวิตใหม่ของนายนะ นายต้องทำมันให้ได้สิเฟร็ดไม่อยากเห็นนายเป็นแบบนี้หรอกน่ารอนกระทุ้งศอกของเขาเข้ากับแขนของจอร์จ คนตัวสูงกว่ามองกลับก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทาง

            “อืม ขอบใจ

            แม่เจ้า…” รอนอ้าปากค้าง

            อะไร?

            นายขอบคุณจากใจจริง? ให้ตายกางเกงในเมอร์ลิน โลกนี้มันกำลังจะล่มสลายแล้วสเฮ้!” จอร์จผลักอีกคนเบาๆ แล้วเดินมุ่งหน้าไปยังร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์พลางยักไหล่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

            รอนลูบแขนตัวเองก่อนจะมองตามอีกคน 'ดูปกติขึ้นมาสักนิดก็ยังดี' รอนคิดในใจ

‘ฟู่วววว!!!’ ควันสีฟ้าพุ่งขโมงออกมาจากหม้อใบใหญ่กลางร้านขายของเล่นวิเศษชื่อดัง ซึ่งสร้างความแปลกตาแปลกใจให้กับเด็กๆที่กำลังมาทัศนศึกษาและหาซื้อของกันก่อนที่จะเข้าสู่รั้วโรงเรียนฮอกวอตส์เป็นอย่างมาก

           “ยินดีต้อนรับ กำลังหาอะไรอยู่น่ะ? อะไรนะน้ำยาโชคร้าย? โอ้เป็นตัวเลือกที่ดีจอร์จยิ้มให้กับแม่มดสาวคนหนึ่งที่เป็นลูกค้า เธอค่อนข้างดูคล้ายกับแองเจลิน่า แต่ผมตรงกว่า และขาวกว่านิดๆล่ะมั้ง เขาเอื้อมมือไปหยิบสินค้าและยื่นให้เธอ

“8 ซิกเกิลส์ กับ 2 นัทส์จ่ายที่เคาน์เตอร์เลยนะยินดีต้อนรับ นายอยากได้อะไรในวันเมษาหน้าโง่นี้หรอ? มีของมากมายหลายอย่างในร้านนี้เลยนะเขาทำงานอย่างแข็งขัน

            ผมเอ่อยาที่ช่วยทำให้เห็นสิ่งที่อยากเห็นที่สุดขึ้นมาชั่วคราว พอจะมีของแบบนั้นมั้ยครับ?” เด็กชายที่น่าจะอยู่ปี 1 เข้ามาถามเขาด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ

            อืมมที่เหมือนกระจกเงาแห่งเอริเซดน่ะหรอ? ของใหม่ล่าสุดในร้านเลยล่ะ! ฉันเป็นคนคิดค้นมันขึ้นมาเองคนเดียว แต่ฤทธิ์ของมันก็ไม่นานนักหรอกมั้ง?จอร์จกวักมือให้อีกคนตามมาแล้ววิ่งขึ้นไปบนบันไดที่ลอยอยู่กลางร้าน และหยิบโหลที่มีเม็ดลูกอมใหญ่ๆสีขาวบริสุทธิ์ประมาณ 2-3 เม็ดได้ออกมา เขาหยิบเจ้าลูกอมที่มีควันจางๆลอยล่องออกมาสำรวจดู ก่อนที่ความคิดบางอย่างจะแล่นขึ้นมาในหัว

            “ขอโทษนะ…มันค่อนข้างจะอันตรายน่ะ แต่ฉันก็มีของหลายอย่างที่จะแนะนำนายนะ อยากให้คนที่นายจะแกล้งได้เห็นภาพหลอนหรือเปล่าล่ะ?จอร์จตอบกลับ ก่อนอีกมือหนึ่งจะปิดฝาลง และกำลังจะเก็บในชั้นเหมือนเดิม

            ลูกอม...ที่มีอำนาจเหมือนกระจกเงาแห่งเอริเซดจอร์จคิด ก่อนที่จะมองในโหล แล้วหยิบมันขึ้นมาเม็ดหนึ่ง ก่อนจะใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้วยใบหน้าเรียบเฉย… ก่อนจะนำทางเด็กหนุ่มคนนั้นไปยังอีกฝั่งหนึ่งของร้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม…

.
.
.

เวลาตี 1 กับ 52 นาที วันนี้กิจการของร้านก็ผ่านไปได้ด้วยดี และอย่างที่เดาไม่มีผิด ลูกค้าเข้ามาซื้อของในวันนี้เยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสินค้าที่นำไปแกล้งคนได้นี่แหละ เช่น หวีกิ้งก่าคาเมเลียน ที่สามารถเปลี่ยนทรงผมได้อย่างรวดเร็วตามใจนึก เหล่าของยั้วเยี้ยยุ่บยั่บ กล่องตัวตลกวีสลีย์ หมวกหายหัว หรืออะไรทำนองนั้น

            จอร์จยืนมองห้องของตัวเอง บนชั้นบนสุดของร้านของเขา แน่นอนว่าการตกแต่งมันช่างเหมือนผลงานศิลปะของปิกัสโซ่ ถึงเขาจะเคยอยู่กับเฟร็ดในห้องนี้และเป็นฝาแฝดกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ชอบอะไรเหมือนกันทุกเรื่อง พูดไปก็มีอะไรหลายๆอย่างที่เขาทั้งคู่ไม่เหมือนกัน เขาตัวสูงกว่าเฟร็ดเล็กน้อย โหนกแก้มของเฟร็ดจะเด่นชัดกว่า ดวงตาของจอร์จจะมีสีที่สว่างกว่า หรือแม้กระทั่ง…. โอ้ ใช่ ผู้พิทักษ์ของพวกเขาก็ไม่เหมือนกัน

            จอร์จค่อยๆหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของตัวเอง แล้วหวนนึกถึงเหตุการณ์บางสิ่ง ก่อนที่จะชูไม้กายสิทธิ์ขึ้นมา เขาถอนหายใจเบาๆก่อนจะพูดขึ้น

เอ็กซ์เป็คโต พลาโตนัม!!”

ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้กระทั่งแสงวาบเพียงเล็กน้อยเหมือนตอนที่เขาเพิ่งเข้ากองทัพดัมเบิลดอร์ใหม่ๆก็ยังไม่ปรากฏขึ้นมาให้เห็น

ผู้พิทักษ์ของเฟร็ดเป็นไฮยีน่า ส่วนของจอร์จเป็นหมาป่าโคโยตี้

เขารู้ดี…แต่หลังจากที่สงครามครั้งนั้นสิ้นสุดลง เขาไม่สามารถที่จะเสกผู้พิทักษ์ออกมาได้อีกเลย ความสุขที่สุดในชีวิตของเขาได้มลายหายไปแล้ว…

จอร์จเก็บไม้กายสิทธิ์ของตัวเองไว้ในกล่องตรงหัวเตียง และวางมันไว้ข้างๆกล่องของเฟร็ดอย่างที่เคยทำ ก่อนที่จะนั่งลงกับเตียงของตัวเอง

กลุก….’
ลูกกลมกลิ้งสีขาวบริสุทธิ์หล่นออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา ควันจางๆยังคงพวยพุ่งออกมาจากลูกอมนั้นราวกับเชิญชวนให้เขากลืนกินมันลงไป

จอร์จค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบมัน เขารู้ว่ามันมีผลข้างเคียง เขารู้ว่ามันยังไม่สมบูรณ์ มันอาจทำให้เขาเห็นภาพหลอน เป็นสิ่งที่เขาต้องการไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ หรืออาจเป็นบ้าไปเลย เขาอาจถูกทำลายประสาทการทำงานในสมอง หรืออาจจะ

ยังไม่ทันที่เขาจะคิดจบเลยด้วยซ้ำ ลูกอมเคี้ยวหนึบนั่นก็ได้ย้ายเข้าไปในปากเขาแล้วเรียบร้อย รสชาติมันสะอาดสะอ้านเหมือนมินท์แต่พอเคี้ยวไปสักพักก็เริ่มคล้ายกลิ่นสบู่ที่คนแก่ๆชอบใช้ จอร์จทำหน้ายี้ก่อนที่จะรีบเคี้ยวๆแล้วกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

เหมือนกระจกเงาแห่งเอเรซิดงั้นหรอ? มันจะให้ผลยังไงกันนะ?

บีทเตอร์ที่เก่งที่สุดของกริฟฟินดอร์? ร้านที่มีกิจการรุ่งเรืองจนได้เป็นเจ้าสัวรายใหญ่ในฮอกมี้ดส์?

จอร์จ
.
.
.
เสียงนี้เสียงที่คุ้นเคยนี่มัน..

จอร์จรีบหันขวับไปตามเสียงที่ถูกเรียก เตียงที่ว่างเปล่าอีกฝั่งหนึ่งมันยวบลงไปและไม่ใช่แค่นั้น มีร่างของใครบางคนที่กำลังนั่งอยู่บนนั้น

ผมสีแดงโทนเดียวกัน ดวงตาสีน้ำตาลที่เข้มกว่า ปลายจมูกที่ชี้ขึ้น ริมฝีปากบนที่เหยียดตรงถ้าไม่นับเรื่องพวกนี้ก็เหมือนกับเขากำลังส่องกระจกอยู่นั่นแหละ

ไม่เห็นจะเหมือนกันเลย…” จอร์จยิ้มออกมา น้ำตาที่แห้งเหือดไปเกือบปีมันค่อยๆรื้นขึ้นมาที่ดวงตา หยดน้ำเหล่านี้มันอบอุ่นอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

พล่ามอะไรของนายน่ะ? แล้วนี่จะร้องไห้ทำไมเฟร็ดลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินมาทางน้องชายฝาแฝดที่กลายเป็นคนขี้แยไปแล้ว ก่อนจะเช็ดน้ำตาให้อีกคน

จอร์จสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อยๆเอื้อมมือขวาของเขาออกไปแตะตัวของเฟร็ด มือของเขา… ไม่ทะลุผ่านตัวไปอย่างที่คิด เขาสามารถแตะเฟร็ดได้ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้มันเป็นอย่างนี้ได้ แต่รู้ตัวอีกทีเขาก็สวมกอดพี่ชายฝาแฝดตัวเองแน่นยิ่งกว่ากาวซะอีก

เฮ้ เฮ้ จอร์จ นายดูแปลกๆนะเฟร็ดพูดพลางหัวเราะ ก่อนที่จะกอดตอบจอร์จแล้วตบหลังแรงๆสองที

ฉันคิดถึงนายมาก มันมีอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้น นายเดาไม่ถูกหรอกเฟร็ดดี้

ฉันเฝ้ามองดูนายตลอดเวลานั่นแหละ จอร์จจี้

ฉันจะไม่ถามอะไรที่มันงี่เง่า ฉันไม่อยากให้มันเสียเวลาฉันแค่อยากคุยกับนายอีก อยากให้นายมาตบมุขให้ฉันเหมือนอย่างเคย ชีวิตที่ขาดนายไปมันไม่สนุกเลยว่ะ ไม่มีความหมายเลยจริงๆ…” จอร์จยังคงสะอื้นไปพูดไป

ฉันก็อยู่ตรงนี้แล้วไง เราก็มาคุยกันหน่อยมั้ยล่ะ?เฟร็ดลูบหลังอีกคนไป พลางยิ้มไป อ้อมกอดแน่นค่อยๆคลายออก พวกเขามองหน้ากันสักพัก ก่อนที่จอร์จจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

ฉันขอโทษจริงๆ เฟร็ดดี้ ฉันไปช่วยนายไม่ทัน แม้กระทั่งก่อนที่นายจะหลับไปฉันยังไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ

นายไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกจอร์จจี้ ฉันไม่ทรมานเลยนะ ถึงแม้ใบหน้าสุดท้ายที่ฉันอยากเห็นจะเป็นนาย แต่ถ้ามันจะเป็นใครสักคนในวีสลีย์ก็โอเคแล้วนี่ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็อยู่ตรงหน้านายนะ อยู่ตรงนี้ไงเฟร็ดตอบกลับ พลางยกยิ้มขึ้นเหมือนทุกอย่างโอเค เหมือนทุกอย่างกลับมาเป็นปกติสุข

ฉันไม่รู้จริงๆว่าฉันควรจะทำยังไงดี นายมองดูฉันอยู่ตลอดเลยหรอ?จอร์จถาม

พวกเราคือกันและกัน นายเป็นส่วนหนึ่งของฉัน ฉันเป็นส่วนหนึ่งของนาย เราถึงถูกเรียกว่าฝาแฝดยังไงล่ะเฟร็ดตอบ

ฉันขอย้ำอีกที ฉันไม่รู้จริงๆว่าฉันควรทำยังไงดีตอนนี้ ฉันอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป…”

“…นายก็รู้ดีจอร์จ นายรู้คำตอบนี้ดีคำตอบของเฟร็ดทำให้รอยยิ้มของจอร์จค่อยๆเลือนหายไป เขารู้ว่ามันยาก คงจะดีกว่าถ้าเฟร็ดไปสู่สุขคติ มันไม่เหมือนกับผีหัวเกือบขาด หรือเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ เฟร็ดไม่ควรมาเป็นวิญญาณเร่ร่อน หรือต้องมีห่วงอยู่ในโลกนี้ต่อไป มันไม่ถูกต้อง

“…ถ้าฉันเป็นแฟนนาย ฉันคงจับหน้านายมาจูบให้หายคิดถึงไปแล้วล่ะมั้ง” จอร์จพูดพลางส่ายหัวแล้วหัวเราะออกมาเป็นเชิงขี้เล่น

เราเป็นฝาแฝดกันนะเฟร็ดเคาะหัวไล่ความคิดอีกคน พลางทำหน้าบูดเบี้ยว

ฉันควรจะเข้าใจได้แล้วสินะ นายสบายดี แล้วนายก็ต้องไปเกิดใหม่ นายต้องไปมีชีวิตใหม่ เหมือนกับฉัน ฉันก็ต้องมีชีวิตใหม่…” จอร์จทวนความคิดของตัวเองอีกที

นายต้องไม่จมปลักอยู่กับฉันนะ นายบ่นอยู่เสมอไม่ใช่หรอว่าพวกเรานี่ไม่น่าเกิดมาเป็นแฝดกันเลย มีแต่คนมองว่าเราเหมือนกัน” เฟร็ดพูดขึ้น

“…อีกอย่างหนึ่ง ฉันอยู่ตรงนี้ตลอดไป นายเข้าใจใช่มั้ย?...” เฟร็ดพูดต่อ เขาเอื้อมมือขวาออก และทาบมันที่อกซ้ายของคนข้างหน้า

พวกเรายังอยู่ด้วยกันตลอดไปสินะจอร์จยิ้มก่อนที่จะจับมือของอีกฝ่าย

แน่นอน ฉันอยู่ข้างนายตลอดไป ใช้ชีวิตของนายให้คุ้มค่า เหมือนใช้ชีวิตให้กับฉันด้วยนะเฟร็ดตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม หากสังเกตใกล้ๆ ดวงตาของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง และน้ำตาก็รื้นขึ้นมาเช่นกัน ใช่ว่าเขาจะไม่คิดถึงน้องชายฝาแฝดคนนี้สักหน่อย

เดี๋ยวคืนนี้ฉันนอนข้างนายเอง อยากให้ไปดันเตียงมาข้างๆมั้ยล่ะ?เฟร็ดถาม

เอาสิ ทำให้มันเป็นเตียงคิงไซส์เลย!” จอร์จยิ้มกว้างแล้วรอให้อีกคนดันเตียงมากลางๆห้อง พร้อมกับเขาที่ดันเตียงของตัวเองมาประกบกันที่ตรงกลางเป๊ะๆของห้องพอดี

ให้ตายสิ เรามาพูดถึงเรื่องเก่าๆกันมั้ย? เหมือนเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันเป็นปีๆเฟร็ดดีดนิ้วเปาะหนึ่ง ชุดของเขาเปลี่ยนเป็นชุดนอนลายทางสีน้ำตาลกาแฟ ให้เหมือนกับจอร์จก็กำลังใส่ชุดนั้นอยู่พอดีด้วย

“… อ๋อจำได้แล้ว ตอนนั้นไง ที่มีแข่งขันควิดดิชท์น่ะ ที่เราเกือบทำให้ลี จอร์ดันแทบหัวใจวาย” จอร์จเริ่มเรื่อง

อ๋อใช่ ตอนนั้น ฮ่าๆๆฉันยังจำหน้าเขาตอนนั้นได้อยู่เลย แต่พอพูดถึงเรื่องฮาๆ ฉันกลับนึกถึงยัยป้าอัมบริดจ์นั่นน่ะสิ

กับดอกไม้ไฟวีสลีย์

ที่พวกเรา

ทำขึ้น

มาเอง!”

พวกเขาเงียบไปครู่หนึ่ง ่ก่อนที่จะระเบิดหัวเราะออกมา นี่พวกเขาไม่ได้พูดคำต่อๆกันมานานแค่ไหนแล้วนะ ให้ตายสิฝาแฝดนี่น่าพิศวงชะมัด ทำแบบนี้ได้โดยที่ไม่ต้องเตี๊ยมกันก่อนได้ยังไงกัน

ฉันพูดจริงๆนะ ถ้าฉันเป็นแฟนนายฉันคงจูบนายไปแล้ว…” จอร์จพูดอีกครั้งออกมาเบาๆ

แล้วถ้าไม่ใช่แฟนล่ะ?

จอร์จเงยหน้ามองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ แต่แล้วคำถามก็ถูกลบออกจากสมองไปชั่วขณะ เมื่อริมฝีปากของอีกคนเข้ามาเฉียดก่อนที่จะประกบลงกับริมฝีปากของเขาเบาๆ กลิ่นคล้ายๆมินต์ที่ลอยวนอยู่ทั่วทำให้เขารู้สึกเคลิบเคลิ้ม เขาค่อยๆปรับองศาเพื่อเลื่อนจมูกโด่งไม่ให้ชนกับของอีกฝ่าย เปลือกตาหลับพริ้มเพื่อรับสัมผัสของอีกคนอย่างลึกซึ้ง ลิ้นร้อนรุกล้ำโพรงปากนุ่มที่แสนจะหอมหวานของกันและกัน สลับกับเกี่ยวกระหวัดไปมาราวกับเด็กน้อยที่โหยหาของหวานมาตลอด มือแกร่งขย้ำที่กลุ่มผมอีกฝ่าย แลกกับที่ไหล่ของเขาก็ถูกอีกคนบีบไว้แน่นเช่นกัน ทั้งคู่แลกลมหายใจกันอยู่สักพักก็ค่อยๆถอนจูบออกมา ก่อนดวงตาสีใสจะมองเข้าไปในนัยน์ตาของอีกฝ่าย ริมฝีปากของทั้งคู่ยกยิ้มขึ้นมา 
ได้รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร...

อย่างน้อยก็มีเรื่องนี้ ที่ฝาแฝดคู่นี้มีความคิดตรงกันนอกจากเรื่องแกล้งคนน่ะนะ...



คำคืนอันแสนยาวนานและมีความสุขที่สุดค่อยๆผ่านพ้นไป ในที่สุด จอร์จก็ไม่รู้ว่าเขาผล็อยหลับไปเมื่อไร

แต่พอเขาตื่นมาอีกที…เตียงข้างๆก็ว่างเปล่าเสียแล้ว แต่เตียงที่ถูกจัดให้มาประกบกัน รวมถึงผ้าห่มและหมอนที่กระจัดกระจายทำให้เขารู้ว่าเรื่องเมื่อคืนมันไม่ใช่ความฝัน น้ำตาของจอร์จไหลออกมาอีกครั้ง หนึ่งหยดจากดวงตาข้างซ้าย มันช่างอบอุ่น… 

เขายิ้มออกมา ก่อนที่มือหนาจะปาดน้ำตาลวกๆ อย่างน้อยเมื่อคืนเขาก็ได้พูดความรู้สึกของเขาออกไป อย่างน้อยเขาก็ได้รับรู้อะไรบางอย่าง มันคุ้มค่ามาก... เขารู้สึกถึงความสุขที่ห่างหายไปนาน

จอร์จเลื่อนสายตามองที่นาฬิกาตั้งโต๊ะสีดำ

7 โมงเช้า... ยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน



เขาอยากจะทดสอบอะไรเล็กน้อย

มือของเขาเอื้อมไปเปิดกล่องและหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา เขาสูดหายใจลึกๆก่อนที่จะชี้ไม้กายสิทธิ์ไปข้างหน้า
เอ็กซ์เปคโต…”

พลาโตนัม!!!”

แสงสว่างวาบออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ เหล่าแสงนั้นค่อยๆไหลรวมกันเป็นรูปของผู้พิทักษ์… 

ผู้พิทักษ์ของเขาแปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างของสัตว์ที่คุ้นเคย… ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นมา แต่คราวนี้กลับไม่มีน้ำตาอีกต่อไปแล้ว

เมื่อเขาเห็น...


เจ้าไฮยีน่าที่สง่างามกำลังวิ่งเล่นไปรอบห้องของเขา