แต่แล้วปากที่อ้าค้างอยู่ก็กลับเป็นจุดบอดและทำให้เรื่องราวยุ่งเหยิงขึ้นหนักกว่าเดิมเสียอีก…
เมื่อจีฮุนผู้ที่เหมือนจะไร้สติไปแล้วแต่ก็ยังคงมีไหวพริบนั้น…
ประกบริมฝีปากสีชมพูเล็กๆ ที่ร่างโปร่งโหยหามาตลอด
ป้อนความหอมหวานนั่นให้กับเขาด้วยตัวเองเบาๆ
รสหวานที่ติดปลายลิ้นแม้รอยจูบจะถูกถอนออกไปแล้ว
ทำให้สติของซูนยองก็เริ่มเลอะเลือนไปบ้าง…
สามัญสำนึกของเขาราวกับจะถูกความดำมืดกลืนกินเข้าไปอีกครั้ง
ถึงเวลาที่ซูนยองพยายามตั้งสติตัวเองบ้าง
เขาต้องขัดขืน สะบัดตัวออก และวิ่งออกจากประตู้ห้องนี้ไปให้เร็วที่สุด
เพื่อความปลอดภัยของคนตรงหน้านั่นแหละ
จะทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย…
แต่พระเจ้ากลับไม่ได้เข้าข้างเขาเลย
เมื่อร่างเล็กเป็นฝ่ายที่ถอดเสื้อตัวเองออกมาบ้าง
กล้ามเนื้อเล็กๆ
ที่แขนกับผิวหน้าท้องขาวเรียบเนียนที่ตอนนี้มันระเรื่อเป็นสีชมพูอ่อนๆ
ราวกับกลีบกุหลาบที่เจืออยู่ในน้ำนม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นมัน
แต่ครั้งนี้มันทำให้เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างแปลกๆ
โดยเฉพาะบางอย่างที่อยู่ใต้เนื้อผ้ากางเกงขาสามส่วนของเขานั่นแหละ
“นายไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังทรมานแค่ไหน…” มือเล็กๆ จับเข้าที่ข้อมือของอีกคนไว้แน่น
ก่อนที่จะเคลื่อนมาวางตรงเป้ากางเกงของตัวเอง
“…”
“นายต้องช่วยฉันนะ” น้ำเสียงตอนสุดท้ายที่ขาดห้วงไปเล็กน้อย
ในขณะที่เจ้าตัวเองใช้มือของเขาลูบวนไปมาบริเวณนั้น
ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงนั้นแทบจะทำให้เขาขาดใจตาย
“…..” ควอนซูนยองไม่ได้พูดอะไร นี่มันเป็นความผิดของเขาเอง
เขาก็ต้องรับผิดชอบมัน… เขาพยักหน้าก่อนที่จะกลั้นหายใจแล้วค่อยๆ
ถอดกางเกงของอีกคนออกอย่างเบามือ
“ฮ…ฮึก..” เนื้อผ้าบางๆ
ที่รูดผ่านแกนกายของจีฮุนทำให้ร่างเล็กบิดเร่าไปด้วยความรู้สึกที่อัดอั้น ไม่นานนักมือหนาก็ค่อยๆ
กอบกุมส่วนนั้นแล้วรูดขึ้นลงอย่างเบามือ
“มะ…อื๊ออมม์” เสียงครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน
ทำให้เขาเร่งจังหวะมือของตัวเองเพื่อจะช่วยให้อีกคนไปถึงฝั่งฝันอย่างรวดเร็วที่สุด
“ซูนยอง…อ่า ซูนยอง”
“หยุดเรียกชื่อฉันได้แล้ว” แค่นี้สติเขาก็จะเตลิดไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้ด้วยแล้วนะ
“เร็วขึ้นอีก…ซูนยอง”
“…จีฮุน”
“ฉัน..อึก... ฉันจะไปแล้ว”
ไม่นานนักมือของเขาก็เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำสีขุ่น
ซูนยองมองมันด้วยความรู้สึกที่บีบไปทั่วหัวใจของเขา
ความรู้สึกผิดทั้งหมดมันถาโถมเข้ามาจนเขาเอาแต่โทษตัวเองคนเดียวเงียบๆ
ถ้าทุกอย่างมันไกลไปกว่านี้
เขาคงจะโทษตัวเองไปตลอดชีวิต และพระเจ้าก็จะไม่มีทางให้อภัยเขา
ควรจะหยุดได้แล้ว…
“พอแล้วล่ะ… นายต้องพักผ่อน”
“…”
จีฮุนขมวดคิ้วมองอีกคนนิ่ง
“ฉันขอโทษ… ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว ฉันแย่มากจริงๆ
ฉันคิดว่าฉันทำไปเพราะว่าฉันชอบนาย แต่นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการเลย” ดวงตาเรียวเล็กค่อยๆ กลั้นน้ำอุ่นๆ
ออกมาและอาบไปทั่วสองแก้ม
“…”
ถ้าสังเกตดีๆ ซูนยองก็ควรที่จะได้เห็นรอยยิ้มที่จุดขึ้นมามุมปากของอีกคน
“ฉัน…”
“ถ้านายอยากจะขอโทษล่ะก็
ทำมันซะ…”
“หา?
นายไม่เข้าจ---“
“นายนั่นแหละที่ไม่เข้าใจ… เราอายุ 19 กันแล้วแต่นายมันยังเด็กน้อย” จีฮุนหัวเราะออกมาเบาๆ สร้างความงุนงงให้กับอีกคน
ทั้งคำพูดและการกระทำที่ดูแปลกและหนักหน่วงเหล่านั้น… แต่ยังไม่ทันที่จะได้หายงง
เขาก็ถูกผลักกลับไปนอนแผ่อยู่บนเตียงนุ่มอีกครั้ง
“ฉันจะสอนนายเอง” คนตัวเล็กขึ้นไปนั่งคร่อมอย่างรวดเร็ว
ผิวกายที่เปลือยเปล่าของทั้งคู่เสียดสีกันเบาๆ ทำให้บางอย่างมันตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งแม้จะไม่ต้องการ
หรือเปล่านะ…
ไม่รู้ว่าซูนยองคิดไปเองหรือว่าแรงของจีฮุนนั้นมากขึ้นทุกที
เหมือนว่าเขาจะสู้มันได้แต่ก็ยากที่จะผลักอีกคนให้ออกไปจากตัวของเขา ยิ่งโดยเฉพาะตอนนี้
“จีฮุน… นายควรจะออกไปได้แล้ว”
เสียงของร่างโปร่งเริ่มสั่นเครือ
เขารับรู้ถึงอุณหภูมิของตัวเองที่เริ่มสูงขึ้นตามลำดับ
และมันเริ่มไปจุกอยู่ตรงศูนย์กลางบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ
ในวินาทีก่อนหน้านี้
“นายต่างหากที่ต้องเข้ามา” ไม่รู้ว่าร่างเล็กตั้งใจจะเน้นคำหลังหรือเปล่า
แต่จิตใต้สำนึกที่ทะเล้นทะลึ่งทำให้ซูนยองคิดอะไรไปไกลเกินกว่าที่ควรจะเป็นเรียบร้อยแล้ว
อันที่จริงมันใกล้มากด้วยซ้ำ ใกล้จนแทบบ้า
ไม่รู้ว่าเพราะความรำคาญใจในความชักช้าของบรรยากาศที่กำลังเป็นไปหรือเปล่า
ทำให้คนตัวเล็กค่อยๆ เลื่อนมือตัวเองปลดปมเชือกที่กางเกงของอีกฝ่ายและดึงมันออกจากต้นขาทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว
“จ…จีฮุน!”
เป็นที่รู้กันดีว่าโปรดิวเซอร์คนเก่งมักไม่พูดพล่ามอะไรนัก
แต่ชอบลงมือทำเดี๋ยวนั้นเลย
“อึก!”
ซูนยองไม่สามารถเก็บเสียงของตัวเองไว้ได้
เมื่อริมฝีปากสีชมพูเล็กๆ นั้นลงไปครอบครองแกนกายของเขาที่แข็งขืนได้ที่อย่างรวดเร็ว
ลิ้นเล็กๆ โลมเลียมันไปมาราวกับเป็นไอศกรีมแท่งอร่อย ฟันที่ครูดผิวของส่วนนั้นเบาๆ
ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บเลย แต่มันกลับสร้างความเสียวซ่านแปลกๆ
โดยเฉพาะเวลาที่โพรงปากอุ่นนุ่มสัมผัสเต็มๆ เข้าไปนั้น ทำให้ซูนยองเผลอจิกผมของอีกฝ่ายแล้วขยับขึ้นลงตามใจตนเองอีกด้วยซ้ำ
แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะชอบมันกว่าที่คิด…
“จี..จีฮุน ฉัน…อะ…”
น้ำนมถูกปล่อยออกมาเมื่อความรู้สึกพุ่งทะลุเกินขีดจำกัดที่ซูนยองจะรับไหว
จีฮุนไม่มีทีท่าว่าจะกลืนมันทั้งหมดลงไปได้ คนตัวเล็กสำลักเล็กน้อยพลางเช็ดปากตัวเอง
นั่นทำให้ซูนยองรีบยื่นมือไปเช็ดปากให้กับอีกฝ่าย
และทำท่าจะลุกไปหยิบทิชชู่ที่วางอยู่บนหัวเตียงให้ แต่กลับถูกดึงแขนเอาไว้
“ไม่เป็นอะไรหรอกน่า… ฉันไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ นะ” พูดจบแล้วจีฮุนก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองก่อนที่จะเริ่มใช้มือลูบไล้บริเวณส่วนนั้นของเขาอีกครั้ง
พอได้แล้ว…
“หยุดได้แล้ว…
นายกำลัง..อึก…แย่นะ”
“ใช่ ฉันกำลังแย่เลยล่ะ… ช่วยฉันทีสิ”
รอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาอย่างเปิดเผย
พร้อมดวงตาที่ฉ่ำวาวนั่นทำให้ลมหายในของเพอร์ฟอร์แมนซ์ลีดเดอร์ขาดห้วงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ขนาดตอนซ้อมเต้นยังไม่เคยรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้เลย
“…”
“…” ไม่มีใครพูดอะไร แต่มือของซูนยองค่อยๆ
เลื่อนไปลูบบริเวณช่วงเอวคอดของอีกคน
จีฮุนส่งยิ้มตอบกลับมา ก่อนที่จะค่อยๆ
โน้มหน้าลงไปประกบปากอีกคนเบาๆ
ในขณะที่ลิ้นของทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันและทวีความดุเดือดมากขึ้น มากขึ้นตามลำดับ
มือของทั้งคู่ก็กำลังปลุกเร้าอารมณ์ของอีกฝ่าย เติมเชื้อไฟให้ร้อนแรง
แรงส่งของอารมณ์ทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยความรวดเร็ว
เมื่อริมฝีปากถูกถอนออกจากกัน
แผ่นหลังของคนตัวเล็กกว่าถูกช้อนให้วางบนผ้านวมนุ่มอย่างเบามือ
เจ้าของดวงตาเรียวที่กำลังสำรวจไปทั่วบริเวณร่างกายของอีกฝ่ายนิ่งๆ ได้ย้ายตัวเองขึ้นมาอยู่ข้างบนแทน
มือของเขาลูบไล้ผิวที่เรียบลื่นราวน้ำนม ใบหน้าค่อยๆ
โน้มลงซุกบริเวณซอกคอขาวของอีกฝ่ายและขบเม้มมันเบาๆ ไล่ตั้งแต่ไหปลาร้า อก และช่วงหน้าท้องที่พาลให้รู้สึกเสียววาบในทุกการสัมผัส
ซูนยองลุกขึ้นไปหยิบวาสลีนที่ต้องใช้แทนเจลหล่อลื่นไปก่อน
เพราะความที่ไม่ได้เตรียมพร้อม
ครั้งหน้าจะต้องเตรียมพร้อมกว่านี้อย่างแน่นอน…
ความคิดแวบหนึ่งในหัวของเขาผุดขึ้นมา
“อืออ…” เสียงครางอันแสนไพเราะของโวคอลไลน์ดังขึ้นมาเบาๆ
เมื่อเนื้อปิโตรเลียมเจลเย็นๆ ที่ชโลมรอบนิ้วของอีกคนค่อยๆ เบิกช่องทางข้างหลังของเขาเข้ามา
นิ้วค่อยๆ
ถูกสอดเข้าไปทีละนิ้ว ทีละนิ้ว ค่อยๆ
เอาเข้าและออกจนกว่าจะรู้สึกถึงช่องทางที่เปิดกว้างพอให้ร่างโปร่งสามารถแทรกตัวเข้าไปได้
“เจ็บ…” จีฮุนนิ่วหน้าและเค้นเสียงออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริง
“…” ซูนยองหยุดมือก่อนที่จะเลื่อนมืออีกข้างที่ยังว่างอยู่เข้าไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่าย
ที่เวลานี้มันตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้
“อ๊ะ… อื๊อ..ออ” ความเจ็บจากช่องทางข้างหลังเหือดหายไปหมดเมื่อความรู้สึกดีๆ
เริ่มเข้ามาแทนที่ ซูนยองยอมรับว่ารู้วิธีนี้มาจากการ์ตูนวายที่เขาเคยแอบเมมเบอร์อ่านตั้งแต่สมัยอยู่ม.ต้นนั่นแหละ…
เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองเริ่มชอบผู้ชายมาตั้งแต่เมื่อไร
แต่เขารู้ตัวนะว่าเขาไม่เคยมองผู้ชายคนอื่นเลย
จะมีก็แต่ร่างตรงหน้าคนนี้คนเดียวที่สามารถหยุดสายตาของเขาเอาไว้ได้ตั้งแต่ที่รู้จักกันครั้งแรก
เขาสามารถเรียกมันได้ว่าความรักได้โดยไม่รู้สึกกระดากปากหรือต้องอายในความรู้สึกของตัวเองเลย
เขาชอบลีจีฮุนจริงๆ
“ไม่…ไหวแล้ว…” คนตัวเล็กโพล่งขึ้นมาด้วยเสียงกระเส่าจนแทบหมดแรง
“...”
“เข้ามา…
ซูนยอง ฉันต้องการนาย”
คำพูดที่ไม่น่าเชื่อหลุดออกมาจากปากของคนๆ
นี้ ทำให้คนที่อยู่ข้างบนก็รู้สึกไม่ไหวแล้วเช่นเดียวกัน
“ฉันรักนายนะ…
ลีจีฮุน” พูดจบ มือของเขาก็ค่อยๆ แยกต้นขาเล็กของอีกคนออก ก่อนที่จะค่อยๆ แทรกตัวตนของเขาเองเข้าไปในร่างกายของอีกคน
ทั้งๆ ที่มือก็ยังไม่หยุดการกระทำที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บปวดน้อยลง
จังหวะที่ช้าและเนิบนาบในตอนแรกค่อยๆ เร่งให้เร็วขึ้น
เร็วขึ้นตามลำดับ ไฟโหมลุกและร้อนแรงขึ้นในทุกๆ วินาที
ทั้งห้องที่เงียบสงัดถูกแต่งแต้มไปด้วยเสียงครางกระเส่าและเสียงของกายเนื้อที่กระทบกันจนฟังดูหยาบโลน
แต่ในขณะนี้ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดทั้งคู่ไว้ได้
ความโหยหาที่เกินขีดจำกัดนั้นทำให้คลื่นทะเลกำลังถาโถมซัดใส่กันอย่างไม่หยุดยั้ง
“ซูนยอง ฉัน…อ่า…”
“นาย…อือ… จะเสร็จแล้วเหรอ?”
“…” จีฮุนได้แต่พยักหน้าตามจังหวะ
“ฉันก็…เหมือน..กัน” ซูนยองสูดหายใจลึกๆ
เมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่าง
“ซูนยอง…”
“…”
“ฉัน…ซูนยองอ่า…ฉันชอบนาย”
“…” จังหวะแทบสะดุดเมื่อเขาได้ยินคำนั้นออกมาจากปากของอีกคนอย่างไม่ทันตั้งตัว
เจ้าของชื่อรู้สึกได้ว่าดวงตาของตัวเองเบิกกว้างกว่าที่เคยเป็น
ฤทธิ์ของยานี่มันแรงเกินไปแล้ว
แต่แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ…
อย่างน้อย …ก็ได้ยินมันสักครั้งในชีวิต
คิดแบบนี้ก็แล้วกัน..
อารมณ์ของทั้งคู่ถูกจุดให้ถึงขีดสุดไปพร้อมๆ กัน
ความเปรอะเปื้อนและเหนียวตัวจากคราบเหงื่อและของเหลวสีขาวขุ่นถูกเมินเฉยอย่างไม่ใยดีจากความเหนื่อยของพวกเขา
ซูนยองผล็อยหลับไปก่อนทั้งๆ
ที่แขนของเขายังก่ายกอดอีกคนเอาไว้แน่นราวกับไม่ยอมให้หนีไปไหนเลย
คนตัวเล็กมองใบหน้าอีกคนผ่านความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างลงมาตกกระทบ
ก่อนที่จะยิ้มออกมา
มือของเขาปัดผมที่ปรกหน้าของอีกคน แล้วโน้มหน้าไปจูบเบาๆ บนหน้าผากนั้น